วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รถตู้ วินขาใหญ่ประจำถนน จำเป็นต้องมีพวกเค้ามั้ย?

ทุกวันนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า รถตู้ วินประจำทาง มีความสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรามากแค่ไหน จากที่เมื่อก่อนเรามีแค่ รถเมล์ หรือไม่ก็ แท็กซี่ เป็นเพียงแค่ 2 ทางเลือก (ไม่ขอพูดถึงเรือนะครับ เพราะมันเป็นทางเลือกสำหรับคนที่จำเป็นเท่านั้นคือใกล้แม่น้ำ และยังไงพวกเค้าก็ต้องต่อรถอีกทีอยู่ดีแหละ) ต่อมา รถจักรยานยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์วิน ก็มาเป็นที่นิยม จนปัจจุบัน ทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า นั่นคือ รถตู้ วินเพราะข้อดีของมันที่สามารถตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในกรุงเทพได้ โดยเฉพาะสาวๆ ออฟฟิศ นั่นคือ

1. มีแอร์ ไม่เปียกฝน ไม่ร้อน ไม่ต้องปะทะกับควันท่อไอเสีย ไม่เหม็นควัน ผมไม่เสียทรง และหน้าไม่เลอะเทอะจากฝุ่นละอองและควันพิษ ราคาก็ถูกกว่า มอเตอร์ไซค์วิน หากเทียบระยะทาง คุ้มกว่าเยอะ ฝนตกก็ไม่เปียก

2. ความเร็ว เป็นที่รู้กันว่า รถตู้ วินนั้น วิ่งได้เร็วมาก ..เร็วยังไง? ก็ปาดเค้าไป ปาดเค้ามา เหยียบๆ ปาดๆ ก็เลยถึงเร็ว ไม่สนใจชาวบ้านชาวช่องเค้าว่าจะต้องมาเบรก มาคอยหลบเพราะโดนรถตู้เบียดยังไง

3. มีความถี่มากกว่า รถเมล์ คือมีวิ่งมาบ่อยมากๆ ไม่เหมือนรถเมล์ที่นานๆจะมาสักคัน เพราะทุกวันนี้ธุรกิจ รถตู้ นั้นได้รับความนิยมมาก มีคนหันมาขับกันเยอะ จะออกรถใหม่ หรือ รถตู้มือสอง ก็ทำได้ไม่ยาก

4. ไม่ต้องยืน เนื่องจากความถี่ของจำนวนรถตู้ที่มีมาในข้อ 3 และมันก็ยืนไม่ได้  ทำให้การันตีได้เลยว่า ทุกคนได้นั่งหมด แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนอาจต้องนั่งเบียดนะ ส่วนสภาพ เบาะรถตู้ ก็ตามสภาพครับ แข็งๆ ไม่ดีหรอก

รถตู้วิน

ข้อเสียของ รถตู้ วินต่างๆ ในปัจจุบัน

ในเมื่อ รถตู้ วินมีข้อดีขนาดนี้ แล้วผมจะเอามาเป็นประเด็นทำไมกัน? ในเมื่อมีข้อดี มันก็ต้องมีข้อเสียครับ ซึ่งก็ถือว่ามีไม่น้อยไปกว่าข้อดีเลยนั่นคือ

1. คนขับรถตู้มีความประมาท และประสบการณ์น้อย เนื่องจากในปัจจุบันความต้องการการใช้ รถตู้วิน มีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากคนนิยมมากขึ้น ตามข้อดีที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำมีความต้องการจำนวนรถตู้เพิ่มขึ้น คนขับก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย แปลว่า พวกหน้าใหม่ที่เพิ่งขับรถเป็น พวกวัยรุ่นที่เคยเป็นเด็กรถ ก็อยู่ในวงการคิวรถตู้นั่นแหละ เป็นเด็กเก็บเงิน หรือดูแลรถตู้นาน พอมีเงินหน่อยก็ผันตัวเอง ดาวน์รถตู้ออกมาขับ พวกนี้ไม่มีประสบการณ์ครับ เป็นอันตรายมาก สังเกตได้ว่าพวกนี้จะซิ่งและไม่สนใจอะไรบนถนนเลย ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมากๆ

2. ขับด้วยความประมาท มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย เพราะเนื่องจากต้องการทำรอบ นั่นคือต้องการรีบไปส่งคน ส่งเสร็จได้รีบตีรถกลับมาเพื่อรับคนอีก ยิ่งทำรอบได้มาก ก็ยิ่งได้เงินมาก ทำให้ขับซิ่ง ปาดไปมา ข้ามเลนนั้นไปเลนนี้ ไม่สนใจชาวบ้าน เลนไหนไปได้ 5-10 เมตรก็ขอแซง ขอไปก่อน ตามโครงสร้างของรถตู้แล้ว คนขับอยู่ด้านหน้าสุด แถมหน้ารถตู้ก็สั้นดังนั้นการปาดเข้าเลนจึงทำได้ง่าย ไม่เหมือนพวกคนขับรถเก๋งหรือรถกระบะ ที่หน้ายาวกว่า ต้องคอยระวังเวลาจิ้มปาดเลนเข้าไปอีกเลนหนึ่ง ด้วยการขับรถแบบนี้ จึงมีแต่อุบัติเหตุ แต่คนขับรถตู้ไม่สนใจ ไม่ระวัง แถม ประกันภัยรถยนต์ ก็ยังชอบเข้าข้างพวกรถตู้นี้อีก คนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นต้องมาระวังแทน เหมือนพวกรถตู้มันเป็น “ขาใหญ่” บนถนนก็ไม่ปาน

3. คนขับรถตู้ชอบคุยโทรศัพท์เวลาขับรถ อันนี้ผมเชื่อว่าใครที่เคยขึ้นรถตู้ต้องเคยเจอกันทุกคนอย่างแน่นอน ไม่รู้มันเป็นอะไร ชอบคุยกันจังเลยโทรศัพท์เนี่ย มันจะตั้งใจขับรถกันได้มั้ย แม้ว่าจะใช้ Handfree หรือ Small Talk คุยก็ตาม แต่มันเป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถมากๆ ไหนกฎหมายห้ามคุยโทรศัพท์เวลาขับรถเค้าบังคับใช้กันมาเป็นปีๆแล้วนี่นา นี่มันคนขับรถสาธารณะนะ เสี่ยงมากครับ เสี่ยงกับอุบัติเหตุสุดๆ

4. สภาพกลิ่นและ เบาะรถตู้ ของห้องโดยสารภายในรถตู้ อันนี้ใครที่ไม่เคยขึ้นรถตู้ไม่มีทางรู้และเข้าใจหรอกครับ อาจจะงงว่าผมเอาเรื่องนี้มาเขียนทำไม ก็มันแย่จริงๆครับ ทั้งเหม็นอับ ทั้งสกปรก คือคนขับ หรือเจ้าของรถเค้าไม่ดูแลเลยว่างั้น แอร์เนี่ย ไม่รู้ว่าเคยล้างบ้างหรือเปล่า เมื่อขึ้นไปแล้วคุณจะบ่นก็ไม่ได้นะครับ ต้องทนกันไป ที่สำคัญ ใช่ว่าคุณจะเลือกได้เหมือนแท็กซี่นะครับ ว่าจะขึ้นรถตู้คันไหนดีน้า เหมือนบังคับอ่ะครับ คันไหนมาเราก็ต้องไปคันนั้น บางคันดูภายนอกก็ใหม่อยู่ แต่พอเข้าไปข้างใน เหม็นอับมากๆ ไอ้เรื่องแอร์เย็นน่ะ มันก็เย็นอยู่ แต่แอร์เหม็นเนี่ย มันทรมานกว่าแอร์ไม่เย็นเยอะนะครับ

5. สภาพการขับขี่ที่ฉวัดเฉวียน อาจทำให้ผู้โดยสารหลายคนเมา และเวียนหัวไปได้ง่ายๆ แม้แต่ผมเองซึ่งเป็นคนที่ขับรถตัวเองบ่อยๆ พอไปนั่งแล้วยังเวียนหัวเลยครับ ด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัด และนิสัยการขับรถแย่ๆของคนขับ ตามข้อ 1 และ 2 ที่ได้กล่าวไปแล้ว ปาดไป เปลี่ยนเลนมา ทำให้ผู้โดยสารเวียนหัวกันได้ง่ายๆ เพราะมันเหวี่ยงไปมา กฎหมาย ไม่ได้มาครอบคลุมเรื่องวินัย และมารยาทการขับรถบนท้องถนนจริง เลยทำให้มันมีสภาพเป็นแบบนี้

6. นักเลง อันนี้คำเดียวคงเพียงพอ คนขับรถตู้นี่นักเลงมากครับ เพราะถือว่าพวกเค้ารวมตัวกันได้ คือเป็นกลุ่มนั่นเอง มีอะไรก็ยกพวกเข้าว่า เวลามีการเฉี่ยวชนกัน ทั้งที่ตัวเองเป็นคนผิดก็ลงมาเสียงดัง ทำนักเลง โดยเฉพาะถ้าคู่กรณีเป็นผู้หญิงแล้วล่ะก็ จัดเต็มครับ อันนี้ท่านสุภาพสตรีที่ขับรถแล้วมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถตู้ ไม่จำเป็นไม่ต้องลงมาพูดคุยกับมันมากนะครับ เรียกประกันอย่างเดียวและที่สำคัญ “อย่าขยับรถออกจากจุดนั้น” จอดคาไว้เลยครับ จนกว่าตำรวจจะมา แล้วตัดสินว่าใครผิด ไม่งั้นคนขับรถตู้มันจะบ่ายเบี่ยงอย่างเดียวว่ามันไม่ผิด สำคัญนะครับข้อนี้

รถตู้วิน

นอกจาก 6 ข้อเสียที่ว่านี้แล้ว ยังมีปัญหาที่เป็นปัญหาสังคมอีกข้อคือ วงการนักเลง อำนาจมืด ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้ แต่ไม่มีใครเคยเข้าไปสัมผัส พวกวินรถตู้เนี่ยเค้าจะมีขาใหญ่และนักเลงคุมอยู่ และคอยเก็บส่วยเหมือนเก็บค่าคุ้มครองนั่นแหละครับ และต้องส่งกับ... อย่างที่รู้กัน ไม่เอ่ยดีกว่า เพราะจะเป็นการกล่าวหาอีก เอาเป็นว่าถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่เกี่ยวข้อง พวกมันจะมาตั้งวินกันในจุดที่ไม่สมควรตั้งได้มั้ยครับ ? ลองคิดดูนะครับ เรื่องรถตู้ยังไม่จบ ไปต่อกันใน วิน รถตู้ ขาใหญ่ ตัวอย่างใกล้ตัว หน้าจตุจักร กันเลยครับ