วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นิสสัน ซิลฟี Nissan Sylphy 1.8v มาดูกัน แจ่มขนาดไหน

วันนี้ก็เป็นโอกาสดี ที่ผมได้มาสัมผัส จับเจ้าน้องใหม่ล่าสุดในตระกูลนิสสัน นั่นคือ นิสสัน ซิลฟี นั่นเองครับ ได้มีโอกาสลองขับทดสอบสมรรถนะเจ้า นิสสัน ซิลฟี Nissan Sylphy 1.8v คันนี้เสียหน่อย ก็เลยอยากเอามารีวิวบอกต่อกันครับ สำหรับใครที่กำลังเล็งๆ รถรุ่นนี้อยู่ จะได้เอาไว้เป็นข้อมูลกันครับ

รีวิว นิสสัน ซิลฟี Nissan Sylphy ว่าน่าใช้แค่ไหน

นิสสัน ซิลฟี Nissan Sylphy Review รีวิว

รถยนต์ Nissan Sylphy 1.8v ตัวนี้ที่ผมได้ทดลองขับดูนั้น จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับเป็นรุ่นพี่ใหญ่ของรุ่นนี้เลย เพราะ นิสสัน Sylphy นั้นมีสองรุ่นเครื่องยนต์นั่นคือ รุ่น 1.6 กับ 1.8 เริ่มต้นกับด้วยเรื่องของการตกแต่งภายในห้องโดยสารกันก่อนเลยครับ ซึ่ง Sylphy ตัวนี้ออกแบบมาออกแนวหรูๆ หน่อย แถมยังออกแนวกึ่งสปอร์ตเสียด้วยครับ ตามสมัยนิยมครับ เพราะสมัยนี้จะสังเกตว่ารถใหม่ๆ มักจะตกแต่งภายในออกแนวนี้กันเป็นส่วนใหญ่ โทนสีภายในเป็นทูโทน ด้านล่างออกเป็นสีเทาๆ ออกสว่างๆ ด้านบนก็เป็นเทาเข้มๆ เพื่อลดแสงสะท้อน ตัดกันด้วยลายไม้ รวมทั้งกรอบโลหะแบบอะลูมิเนียม ทำให้ดูผสมผสาน ครบทุกรส ทั้งหรูและดูสปอร์ตไปในตัว มีสวิตส์เปิด-ปิดกระจกทั้งสี่บาน อยู่ที่วางแขนด้านข้างคนขับตามมาตรฐาน และมีสวิตส์ central lock อยู่ด้านบนถัดจากสวิตส์ควบคุมกระจก

จอแจ.com Nissan Sylphy Review รีวิว

สำหรับพวงมาลัยนั้น สวยมากๆ โดนใจผมเลยทีเดียว เข้ามาในรถครั้งแรก เห็นพวงมาลัยแล้วบอกได้เลยว่าโดนครับ เป็นพวงมาลัยหุ้มหนังสีเทา พวกมาลัยเป็นแบบ Multi-function Steering Wheel วงขนาดกำลังพอดี และพวงมาลัยหนังสีเทาก็เย็บด้วยด้านสีขาว สวยมากๆ จับสบายมือสุดๆ เลยทีเดียว ถัดเข้าไป มองลอดพวกมาลัยไป ก็เป็นหน้าปัด มาตรวัดความเร็ว บอกความเร็วได้สูงสุดถึง 240 กม./ชม. และรอบวัดการทำงานของเครื่องยนต์ ตรงกลางก็เป็นมาตรวัดแบบดิจิตอลบอกค่าต่างๆ เครื่องเสียงตรงกลาง ก็ยอดเยี่ยมครับ ต่ออะไรต่อมิอะไรได้มากมาย จะไอโฟน หรือ mp3 หรือ USB ก็ว่ากันไป แอร์เป็นแบบดิจิตอล ควบคุมอัตโนมัติได้ และในรุ่นที่ผมได้ขับนี้ก็เป็นแบบ Keyless entry มีปุ่ม Push-to-Start เรียบร้อย เบาะนุ่มมาก กระชับรับต้นขา เสียอย่างเดียว ดันไม่ใช่เบาะไฟฟ้าซะงั้น วัยรุ่นเซ็งครับ เสียดายจริงๆ

Nissan Sylphy Review รีวิว

เครื่องยนต์ทำงานเงียบดีครับ เงียบมาก จนต้องขอเปิดดูหน้าตาเจ้า Nissan Sylphy นี้เสียหน่อยว่าเป็นเครื่องยนต์อะไร เปิดออกมาถึงได้รู้ว่า เป็นเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว รหัสเครื่องยนต์ MRA8DE รหัสต่อท้าย DE แบบนี้แสดงว่า ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยคอมพิวเตอร์ สำหรับเครื่องนี้ก็อยู่ที่ 32 บิต Double Overhead Camshaft เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ สี่วาล์วต่อสูบ มีระบบการปรับจังหวะการเปิดปิดวาล์วอัตโนมัติ Twin C-VTC ความกว้างกระบอกสูบก็ 79.7 มม. ระยะชักก็ 90 มม. ก็เป็นเครื่องยนต์ที่มีระยะชักยาวเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว ความจุก็ 1,798 ซีซี ก็เลยเรียกกันว่าเป็นรุ่น 1,800 กำลังก็ 131 แรงม้า เมื่อเครื่องยนต์อยู่ที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 174 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงอัดในกระบอกสูบ หรือแรงอัดในห้องเผาไหม้ก็ 9.9 : 1 ซึ่งจัดว่าต่ำ แรงอัดต่ำๆ แบบนี้ใช้น้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 สบายมาก 9.9 : 1 นี้ถือว่าต่ำ เพราะถ้าต่ำกว่า 10.5 : 1 ถือว่าสบาย

เครื่องยนต์ นิสสัน sylphy

เกียร์นี่ก็เป็นเกียร์อัตโนมัติ แบบ Xtronic CVT เป็นเกียร์ที่นิสสันเค้าภูมิใจนักหนา ว่าเป็น Xtronic CVT เนี่ยเป็นเกียร์ลูกเล็ก ให้น้ำหนักเบา อัตราการทดอย่างต่อเนื่อง เป็นเกียร์ตัวที่นิสสันตั้งใจปั้นขึ้นมาเลยทีเดียว อัตราทดเกียร์ CVT รุ่นนี้ก็ตั้งแต่ 4.006 – 0.550 อัตราทดสุดท้ายนี่มันแทบจะปล่อยเครื่องไหลไปเลยทีเดียว ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมกเฟอร์ทันสตรัชพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังก็เป็นทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลัยเป็นแร็คแอนด์พีเนียม พร้อมด้วยระบบผ่อนแรงแบบ Electric Power Steering หรือ EPS นะครับ ระบบเบรกก็เป็นดิสเบรกทั้ง 4 ล้อ ขนาดยางเดิมๆก็ 195/60 R16 รถทั้งคันยาว 4,615 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,495 มม. ฐานล้อก็  2,700 มม. ล้อคู่หน้า 1,545 มม. ล้อคู่หลัง 1,540 มม. น้ำหนักตัวรถทั้งคัน 1,252 กก. นี่คือข้อมูลทางเทคนิคตามตัวเลขของนิสสัน Sylphy 1.8v CVT คันนี้ที่ผมได้ทดสอบขับครับ

ภายใน รถnissan

ตั้งแต่ผมขึ้นรถมา เหยียบเบรก กดปุ่ม Start เครื่องติดแต่เงียบมาก เลื่อนเกียร์มาที่ตำแหน่ง D โดยเคลื่อนลงมาแบบตรงๆ ไม่ใช่แบบขั้นบันได ถ้าใครไม่คุ้นเผลอเลื่อนเร็วไป หรือแรงไป อาจจะเลื่อนมาถึงตำแหน่ง L ได้ง่ายๆ เพรางั้นต้องคอยดูตำแหน่งเกียร์ที่หน้าปัดด้วยนะครับ ขับออกมาตามถนน เครื่องยนต์เงียบ แอร์เย็น ช่วงล่างถูกปรับมาแบบ Comfortable คือมีความนุ่มนวลแบบ Luxury Car มากๆ ช่วงล่างออกนุ่มมากกว่าที่จะแน่น และเฟิร์ม ซึ่งจากที่ผมได้ลองขับดูสักระยะกับช่วงล่างแบบนี้ เป้าหมายของทางนิสสัน น่าจะให้รถรุ่น Sylphy นี้เป็นรถครอบครัวมากกว่าที่จะให้วัยรุ่นขับนะครับ  พวกมาลัยแร็คแอนด์พีเนียนตัวนี้ที่เป็น Electric Power Steering ถือว่าเบาครับ เหมาะกับการขับในเมืองที่ต้องเลี้ยวเปลี่ยนเลนบ่อยๆ ดีครับไม่เมื่อยกับการจราจรที่ติดขัดในเมือง แต่เวลาขับทางไกล อาจต้องทำความคุ้นเคยกันอีกนิดหน่อยถึงจะชินครับ เพราะดูจากสถาปัตยกรรมของรถแล้ว ทั้งช่วงล่างที่นิ่มนวล กับพวกมาลัยเบาแบบนี้ เค้าตั้งใจออกแบบให้มาวิ่งในเมืองมากกว่า เพื่อให้คนนั่งได้รับความสะดวกสบาย ไม่ได้ออกแบบมาให้ลุยซิ่งแบบสปอร์ตวิ่งทางไกลต่างจังหวัดแบบเร็วมากๆ เช่น 140-150 อะไรพวกนี้ เพราะพวงมาลัยจะเบาไปและอาจมีอาการร่อนได้ สำหรับระบบเบรก เชื่อใจได้เลยครับ ก็ดิสก์เบรก 4 ล้อนี่นา แต่จากที่ผมทดสอบมาก บนเส้น มอเตอร์เวย์ ขับไปที่ 130 กม./ชม. นี่ยังสบายๆ เลยครับ ความนุ่มของมัน สุดยอดครับ แม่ผมหลับสบายเลยครับนับว่าทำมาได้ดีจริงๆ ครับ

รถ Nissan Sylphy รุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่นิสสันค่อนข้างคาดหวังเอาไว้มากทีเดียว เพราะจะว่ากันไป รถรุ่นนี้ระดับนี้ นิสสันไม่ได้ทำออกมานานแล้วนะครับ ซึ่งทางนิสสันคาดว่าจะทำตัวเลขได้มากทีเดียว ซึ่งก็ท้าทายกับทางนิสสัน และแฟนๆ พันธุ์แท้ของนิสสันทุกคน ก็คงต้องมาดูครับว่า แบบนี้มันโดนกับคนในเมืองหรือไม่ รถระดับนี้ก็ใกล้เคียงกับ Nissan Suny Neo เดิม หายจากตลาดบ้านเราไปนานทีเดียว แม้ว่าจะมี Tida ออกมา แต่ก็ดูบอดี้เล็กกว่าครับ มองดูรวมๆ แล้วก็เหมือน Teana ย่อส่วนลงมา การขับขี่นั้นให้อารมณ์ได้สุดยอด คือกำลังของเครื่องยนต์นั้น คนขับรู้ได้เลยว่า มันยังเหลืออีกเพียบ รู้สึกได้เลยว่า มันยังไปได้อีกไม่มีอั้นอ่ะว่างั้น ราคารถนิสสัน ซิลฟี 899,000 บาท สำหรับวัยรุ่นก็สามารถซื้อรุ่นนี้เอาไปแต่งได้นะครับ เพราะมันเป็นรถรอแต่งอยู่แล้ว เครื่องพร้อมสุดๆ มีแต่เรื่องของพวงมาลัยกับช่วงล่างเท่านั้นที่อาจต้องปรับแต่งให้มันสปอร์ตสักหน่อยสำหรับคนชอบรถแนวสปอร์ตๆ เปลี่ยนยางให้ low profile แก้มเตี้ยอีกสักหน่อย ปรับช่วงล่างให้แข็งขึ้นอีกนิด สะใจวัยรุ่นแน่นอนครับ แต่สำหรับคนที่ใช้ทั่วไปกับคนในครอบครัว รถคันนี้จบเลยครับ
Categories: