เพิ่งจะเขียนบทความเกี่ยวกับพวก วินรถตู้ ขาใหญ่แถว จตุจักร ไปหมาด ต้องมาเจออีกแล้ว กับการขับรถแย่ๆ นิสัยเลวๆ ของพวกมัน พวกคนขับ รถตู้ วิน ในขณะที่เมื่อเย็นนี้ (11 มิ.ย. 56) ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ผมก็กำลังจะขับรถจากถนนกำแพงเพชร ด้านหลัง ตลาดนัดจตุจักร มาออกที่ถนนพหลโยธิน เพื่อไปรับแฟนที่สถานีรถไฟฟ้า หมอชิต ฝนมันก็เริ่มตกหนักลงมา ต้องมาเจอรถตู้กลับรถตัดหน้าอีก เบรกเกือบไม่ทัน กระทืบเต็มที่จน ABS ทำงานกันเลยทีเดียว เกือบไปจริงๆ
มีทุกวันครับ กับเหตุการณ์หวาดเสียวบนท้องถนนเมืองไทย นี่ผมเป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาคนนึง ที่ใช้ถนนแค่เช้ากับเย็น แค่ไปทำงานกับ กลับบ้านนะครับ ยังเจออะไรขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงพวกที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนในกรุงเทพตลอด คงปวดใจอย่างแน่นอน ผมอยากให้ดูคลิปนี้ครับ ไม่ยากหรอกครับ แค่ไม่กี่วินาที แต่มันบอกได้หมดครับ ด้านหลัง จตุจักร ฝนกำลังตก ถนนกำลังลื่น รถตู้ตัดสินใจกลับรถตัดหน้าผมทันที บนถนนที่มีการตีเส้นทึบกลางถนน ซึ่งแปลว่าห้ามกลับรถนั่นเอง ผมต้องเบรกตัวโก่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาเร็วนะครับ แต่มันเป็นอะไรที่กะทันหันจริงๆ หวาดเสียวครับ และผมโกรธ โมโหมากๆ ดูคลิปกันเลยครับ
จากเหตุการณ์นี้ วินาทีนั้น ผมเข้าใจอารมณ์ของคนที่ชักปืนออกมายิงกันเพราะเรื่องแค่ขับรถปาดกันได้เลยทีเดียว มันเกิดจากมารยาทที่ทรามมากๆ ของคนขับรถอีกฝ่าย ถ้าผมมีปืนอยู่ในรถ คงตีรถคู่ขึ้นไป แล้วเปิดกระจก เอากระสุนให้คนขับรถตู้คนนั้นแดกไปแล้วครับ มันน่าโมโหมากๆ ครับ เห็นแก่ตัวเหลือเกิน หรือว่าผมใจร้อนเกินไป? และนี่คือสาเหตุที่ผมไม่เคยคิดที่จะพกอาวุธอะไรไว้บนรถเลย เพราะผมกลัวจะทนไม่ไหว กับการขับรถระยำๆ แบบนี้
อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วในบทความเกี่ยวกับ รถทัวร์ กลับรถตัดหน้า ก็ที่หมอชิตนี่อีกแหละครับ รถที่เป็นรถรับจ้าง มีผู้โดยสารอยู่ในรถ ไม่ควรกระทำนะครับ ที่จะขับรถแบบ มักง่าย และประมาทแบบนี้ ต้องคำนึงถึงชีวิตคนที่อยู่ในรถ หรือผู้โดยสาร และต้องคำนึงถึงชีวิตรวมทั้งทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ อีกด้วย น่าเสียดายนะครับ ที่ผมมีกล้องวีดีโอติดหน้ารถ สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีใครช่วยผมได้เลย และก็เช่นกัน ไม่มีใครช่วยทุกๆ ท่านที่กำลังอ่านบทความนี้ได้เลย หากทุกท่านเจอแบบผม
ขอให้คิดว่า ผมเป็นตัวแทนของทุกท่าน ผมก็เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ทำงานต็อกต๋อย ผมเป็นเหมือนกับทุกท่าน ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ถ้าผมเจออะไร ท่านก็ต้องได้มีโอกาสเจอแบบผมอย่างแน่นอนครับ เจอแน่ๆ เพียงแต่จะเมื่อไหร่ก็เท่านั้น นับวันคนเราก็ยิ่งมักง่าย มารยาททรามบนถนนกันเยอะแยะ ถ้าท่านเห็นว่าเรื่องที่ผมเจอมาเป็นเรื่องเล็ก เมื่อท่านได้มีโอกาสเจอกับตัวแล้วท่านก็จะเข้าใจเอง ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
การจราจรทุกวันนี้ ในกรุงเทพ ย่ำแย่มากๆครับ ต่อจากเหตุการณ์ รถตู้ วิน กลับรถตัดหน้ากะทันหัน ก็ต้องมาเจอกับ โคตร รถติด ไม่รู้เพราะอะไร “ฝนตก” ถึงต้อง “รถติด” ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย ฝนมันลงมาทำให้รถเปียกแล้ววิ่งได้ช้าลงหรือ อันนี้ก็ไม่ใช่ แล้วทำไมกัน ? ทั้งๆ ที่ทุกวันที่ฝนไม่ได้ตก มันก็ติด แต่มันก็พอเคลื่อนตัวกันไปได้ แต่นี่พอฝนตกลงมา เส้นทางไหนที่เคยไปได้ ก็ติดไปหมด ทุกท่าน เคยนึกสงสัย เป็นคำถามในใจกันบ้างมั้ยครับ ?
วันนี้รถติดมากๆ และผมก็เชื่อว่า ทุกท่านที่อยู่ในกรุงเทพ ก็คงจะรู้สึกว่า วันนี้มันเป็นอะไร ติดมากเกินไปมั้ย แค่ฝนตกหนักแค่เนี้ย จะติดอะไรนักหนา จากที่ปกติผมใช้เวลาฝ่ารถติดกลับบ้าน 1 ชม. วันนี้ฝนตก ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะกลับถึงบ้านได้ โหดสุดๆครับ สิ้นเปลืองพลังงานกันแบบเต็มเหนี่ยว เฉพาะจอดติดอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ตรงสถานีรถไฟฟ้า หมอชิต ก็ปาเข้าไป 45 นาทีแล้วครับ เคยเจอรถติด 45 นาทีกันมั้ยครับ ติดจนไม่รู้จะทำยังไง ปวดฉี่ก็ไม่มีห้องน้ำที่ไหนให้เข้า สุดยอดครับ พวกที่ไม่มีรถแล้วใช้รถไฟฟ้าเดินทาง ยังลงมาไม่ได้เพราะฝนตกหนักมาก พวกที่รอรถเมล์ ก็รอไปเถอะครับ รอรถตู้ ก็รอต่อไปเถอะครับ เพราะรถมันติด รถที่ใครต่อใครรอโดยสารอยู่ มันก็เข้ามาไม่ได้ เพราะรถที่มีอยู่มันยังไม่เคลื่อนที่ไป ผมจอดติดอยู่ 45 นาที ก็เท่ากับคนที่ลงจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตตอนที่ผมมาถึง ต้องยืนรอรถโดยสารที่จะมา อย่างน้อย 45 นาที ยังไม่รวมว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่านะครับ เพราะคนเยอะ เรียงตามคิว รถคันนั้นอาจจะเต็มแล้วต้องรอต่อไปอีก
เคยมองมั้ยครับ ว่าเรื่องการจราจรในกรุงเทพตอนนี้เป็น วิกฤต ! หลายคนอาจจะไม่มอง แต่ลองคิดแบบนี้นะครับ ในต่างจังหวัด คนทั่วไปเลิกงาน 16.30 น. ขับรถครึ่ง ชม. หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็ถึงบ้านแล้ว แต่ถ้าเป็นที่กรุงเทพนี้ อย่างน้อยๆ ก็ 18.00 น. ครับกว่าจะถึงที่พัก เท่ากับคุณใช้เวลาอยู่บนถนนถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณเสียดายเวลาบ้างมั้ยครับ เวลานั้นคุณสามารถเอาไปออกกำลังกาย สอนการบ้านลูก จ่ายตลาดซื้อกับข้าวเย็น นั่งดูทีวี หรือจะทำอะไรก็ตามที่เป็นการพักผ่อนของคุณ เสียดายเวลากันบ้างมั้ยครับ
ในตอนนี้ทุกคนมองว่า เรื่องการ จราจร เป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องสุดวิสัย เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคน “ทำอะไรไม่ได้” บ่นกัน พูดกัน ต่อว่ากันไป มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สู้ทำใจยอมรับมัน ทนๆ มันไป สักวัน ก็คงมีใครสักคน ที่มีอำนาจ ลุกขึ้นมาแก้ไขเอง ผมก็บอกได้เลยว่า สำหรับใครก็ตามที่คิดแบบนี้ ไม่ผิดครับ ตราบใดที่คนเรา ยังไม่มีภัยมาเยือน ย่อมไม่มีใครตื่นตระหนก หรือสนใจกับภัยอันตรายเหล่านั้นหรอกครับ เช่นเดียวกัน ปัญหาจราจรนี้ ไม่ใช่เรื่องของคุณ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง คุณต้องได้รับเรื่องไม่ดี หรือข่าวร้าย หรืออุบัติเหตุ หรืออะไรก็ตาม ซึ่งมีเหตุมาจากการจราจรที่ติดขัดนี้แล้วล่ะก็ วันนั้นคุณจะเข้าใจและมองเห็นว่า รถติดในกรุงเทพ ไม่ใช่เรื่องของผู้ว่า หรือตำรวจในกรุงเทพ แต่เป็นเรื่องของคุณ ผม และเราทุกคน ที่จะไม่ทนนิ่งเฉย กับทุกๆ สาเหตุ ที่ทำให้รถติดอีกต่อไป
มีทุกวันครับ กับเหตุการณ์หวาดเสียวบนท้องถนนเมืองไทย นี่ผมเป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาคนนึง ที่ใช้ถนนแค่เช้ากับเย็น แค่ไปทำงานกับ กลับบ้านนะครับ ยังเจออะไรขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงพวกที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนในกรุงเทพตลอด คงปวดใจอย่างแน่นอน ผมอยากให้ดูคลิปนี้ครับ ไม่ยากหรอกครับ แค่ไม่กี่วินาที แต่มันบอกได้หมดครับ ด้านหลัง จตุจักร ฝนกำลังตก ถนนกำลังลื่น รถตู้ตัดสินใจกลับรถตัดหน้าผมทันที บนถนนที่มีการตีเส้นทึบกลางถนน ซึ่งแปลว่าห้ามกลับรถนั่นเอง ผมต้องเบรกตัวโก่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้มาเร็วนะครับ แต่มันเป็นอะไรที่กะทันหันจริงๆ หวาดเสียวครับ และผมโกรธ โมโหมากๆ ดูคลิปกันเลยครับ
ตัวอย่าง รถตู้วิน จตุจักร ขับรถมารยาททรามสุดๆ
จากเหตุการณ์นี้ วินาทีนั้น ผมเข้าใจอารมณ์ของคนที่ชักปืนออกมายิงกันเพราะเรื่องแค่ขับรถปาดกันได้เลยทีเดียว มันเกิดจากมารยาทที่ทรามมากๆ ของคนขับรถอีกฝ่าย ถ้าผมมีปืนอยู่ในรถ คงตีรถคู่ขึ้นไป แล้วเปิดกระจก เอากระสุนให้คนขับรถตู้คนนั้นแดกไปแล้วครับ มันน่าโมโหมากๆ ครับ เห็นแก่ตัวเหลือเกิน หรือว่าผมใจร้อนเกินไป? และนี่คือสาเหตุที่ผมไม่เคยคิดที่จะพกอาวุธอะไรไว้บนรถเลย เพราะผมกลัวจะทนไม่ไหว กับการขับรถระยำๆ แบบนี้
อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วในบทความเกี่ยวกับ รถทัวร์ กลับรถตัดหน้า ก็ที่หมอชิตนี่อีกแหละครับ รถที่เป็นรถรับจ้าง มีผู้โดยสารอยู่ในรถ ไม่ควรกระทำนะครับ ที่จะขับรถแบบ มักง่าย และประมาทแบบนี้ ต้องคำนึงถึงชีวิตคนที่อยู่ในรถ หรือผู้โดยสาร และต้องคำนึงถึงชีวิตรวมทั้งทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ อีกด้วย น่าเสียดายนะครับ ที่ผมมีกล้องวีดีโอติดหน้ารถ สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีใครช่วยผมได้เลย และก็เช่นกัน ไม่มีใครช่วยทุกๆ ท่านที่กำลังอ่านบทความนี้ได้เลย หากทุกท่านเจอแบบผม
ขอให้คิดว่า ผมเป็นตัวแทนของทุกท่าน ผมก็เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ทำงานต็อกต๋อย ผมเป็นเหมือนกับทุกท่าน ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ถ้าผมเจออะไร ท่านก็ต้องได้มีโอกาสเจอแบบผมอย่างแน่นอนครับ เจอแน่ๆ เพียงแต่จะเมื่อไหร่ก็เท่านั้น นับวันคนเราก็ยิ่งมักง่าย มารยาททรามบนถนนกันเยอะแยะ ถ้าท่านเห็นว่าเรื่องที่ผมเจอมาเป็นเรื่องเล็ก เมื่อท่านได้มีโอกาสเจอกับตัวแล้วท่านก็จะเข้าใจเอง ว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
การจราจรทุกวันนี้ ในกรุงเทพ ย่ำแย่มากๆครับ ต่อจากเหตุการณ์ รถตู้ วิน กลับรถตัดหน้ากะทันหัน ก็ต้องมาเจอกับ โคตร รถติด ไม่รู้เพราะอะไร “ฝนตก” ถึงต้อง “รถติด” ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย ฝนมันลงมาทำให้รถเปียกแล้ววิ่งได้ช้าลงหรือ อันนี้ก็ไม่ใช่ แล้วทำไมกัน ? ทั้งๆ ที่ทุกวันที่ฝนไม่ได้ตก มันก็ติด แต่มันก็พอเคลื่อนตัวกันไปได้ แต่นี่พอฝนตกลงมา เส้นทางไหนที่เคยไปได้ ก็ติดไปหมด ทุกท่าน เคยนึกสงสัย เป็นคำถามในใจกันบ้างมั้ยครับ ?
วันนี้รถติดมากๆ และผมก็เชื่อว่า ทุกท่านที่อยู่ในกรุงเทพ ก็คงจะรู้สึกว่า วันนี้มันเป็นอะไร ติดมากเกินไปมั้ย แค่ฝนตกหนักแค่เนี้ย จะติดอะไรนักหนา จากที่ปกติผมใช้เวลาฝ่ารถติดกลับบ้าน 1 ชม. วันนี้ฝนตก ผมใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะกลับถึงบ้านได้ โหดสุดๆครับ สิ้นเปลืองพลังงานกันแบบเต็มเหนี่ยว เฉพาะจอดติดอยู่ที่ถนนพหลโยธิน ตรงสถานีรถไฟฟ้า หมอชิต ก็ปาเข้าไป 45 นาทีแล้วครับ เคยเจอรถติด 45 นาทีกันมั้ยครับ ติดจนไม่รู้จะทำยังไง ปวดฉี่ก็ไม่มีห้องน้ำที่ไหนให้เข้า สุดยอดครับ พวกที่ไม่มีรถแล้วใช้รถไฟฟ้าเดินทาง ยังลงมาไม่ได้เพราะฝนตกหนักมาก พวกที่รอรถเมล์ ก็รอไปเถอะครับ รอรถตู้ ก็รอต่อไปเถอะครับ เพราะรถมันติด รถที่ใครต่อใครรอโดยสารอยู่ มันก็เข้ามาไม่ได้ เพราะรถที่มีอยู่มันยังไม่เคลื่อนที่ไป ผมจอดติดอยู่ 45 นาที ก็เท่ากับคนที่ลงจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตตอนที่ผมมาถึง ต้องยืนรอรถโดยสารที่จะมา อย่างน้อย 45 นาที ยังไม่รวมว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่านะครับ เพราะคนเยอะ เรียงตามคิว รถคันนั้นอาจจะเต็มแล้วต้องรอต่อไปอีก
เคยมองมั้ยครับ ว่าเรื่องการจราจรในกรุงเทพตอนนี้เป็น วิกฤต ! หลายคนอาจจะไม่มอง แต่ลองคิดแบบนี้นะครับ ในต่างจังหวัด คนทั่วไปเลิกงาน 16.30 น. ขับรถครึ่ง ชม. หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็ถึงบ้านแล้ว แต่ถ้าเป็นที่กรุงเทพนี้ อย่างน้อยๆ ก็ 18.00 น. ครับกว่าจะถึงที่พัก เท่ากับคุณใช้เวลาอยู่บนถนนถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง คุณเสียดายเวลาบ้างมั้ยครับ เวลานั้นคุณสามารถเอาไปออกกำลังกาย สอนการบ้านลูก จ่ายตลาดซื้อกับข้าวเย็น นั่งดูทีวี หรือจะทำอะไรก็ตามที่เป็นการพักผ่อนของคุณ เสียดายเวลากันบ้างมั้ยครับ
ในตอนนี้ทุกคนมองว่า เรื่องการ จราจร เป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องสุดวิสัย เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคน “ทำอะไรไม่ได้” บ่นกัน พูดกัน ต่อว่ากันไป มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สู้ทำใจยอมรับมัน ทนๆ มันไป สักวัน ก็คงมีใครสักคน ที่มีอำนาจ ลุกขึ้นมาแก้ไขเอง ผมก็บอกได้เลยว่า สำหรับใครก็ตามที่คิดแบบนี้ ไม่ผิดครับ ตราบใดที่คนเรา ยังไม่มีภัยมาเยือน ย่อมไม่มีใครตื่นตระหนก หรือสนใจกับภัยอันตรายเหล่านั้นหรอกครับ เช่นเดียวกัน ปัญหาจราจรนี้ ไม่ใช่เรื่องของคุณ แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง คุณต้องได้รับเรื่องไม่ดี หรือข่าวร้าย หรืออุบัติเหตุ หรืออะไรก็ตาม ซึ่งมีเหตุมาจากการจราจรที่ติดขัดนี้แล้วล่ะก็ วันนั้นคุณจะเข้าใจและมองเห็นว่า รถติดในกรุงเทพ ไม่ใช่เรื่องของผู้ว่า หรือตำรวจในกรุงเทพ แต่เป็นเรื่องของคุณ ผม และเราทุกคน ที่จะไม่ทนนิ่งเฉย กับทุกๆ สาเหตุ ที่ทำให้รถติดอีกต่อไป