ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนกับ แยกเศรษศิริ นี้ว่ามันมีหน้าตายังไง อยู่ตรงไหนของแผนที่
จากแผนที่ จะเห็นว่า แยกเศรษฐศิริเป็น สามแยกที่ถนน เศรษฐศิริ กับ ถนน เทอดดำริ มาตัดกัน อยู่ใกล้กับ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และ สถานีรถไฟสามเสน มาดูรูปกันครับ
จากรูปนั้นจะเห็นว่ามีรถติดจำนวนมากเลยทีเดียวที่แยกนั้น หากดูตามสภาพแวดล้อมแล้ว จะเห็นว่าแยกนี้เป็นแยกที่มีปัญหามากๆทีเดียว แม้ว่าจะเป็นสามแยกก็ตาม แต่ดันเป็นสามแยกที่ต่อเนื่องกับสี่แยก คือพอข้ามทางรถไฟไปก็เป็นสี่แยกทันทีตรงทางรถไฟนั่นแหละครับ ซึ่งนั่นก็คือแยกเศรษฐศิริ แต่ถ้าจะพูดแล้ว ปัญหาใหญ่ๆสำหรับแยกนี้ที่เป็นตัวการทำให้รถติดนั่นก็คือ
1. รางรถไฟ เพราะถนนดันตัดกับรางรถไฟ ทีนี้ก็เป็นเรื่องสิครับ เวลารถไฟมาก็รอกันไป ซึ่งมีรถไฟวิ่งทั้งวัน เข้ามากันตลอด โดยเฉพาะในช่วงเช้า ที่อยู่ในช่วงที่เรียกว่า ชั่วโมงเร่งด่วน และ ช่วงเย็นตั้งแต่บ่ายสี่โมงไปจนถึงหัวค่ำ ซึ่งก็เป็นเวลาที่คนจะเดินทางกลับบ้าน ติดกันตลอด ปัญหานี้เหมือนเป็นปัญหาโลกแตก เพราะถนนตัดกับรถไฟ แล้วจะทำยังไงครับ ยกรางรถไฟหนี อันนี้ก็ทำไม่ได้ ย้ายถนนหนี อันนี้ทำได้ แต่เค้าก็ไม่ทำอีก แล้วจะแก้ปัญหานี้ยังไง สรุปว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ก็แก้ไม่ได้แน่นอน แถมพื้นที่บริเวณนั้นยังเต็มไปด้วยอาคาพานิชย์และร้านอาหารอีก เรื่องที่จะสร้างสะพานข้ามทางรถไฟยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ สิ่งที่ผมพอจะเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกได้ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนกฏจราจรบริเวณนั้นซึ่งก็จะเป็นในข้อต่อไป
2. สัญญาณไฟจราจรไม่สอดคล้องกับเวลาที่รถไฟมา เคยเจอมั้ยครับ เวลาไฟสัญญาณเป็นสีเขียวที่แปลว่าให้ไปได้ ทุกคนก็รีบขับไป แต่ดันไปติดที่ตัวกั้นทางรถไฟ ทีนี้ทุกคนก็ไม่สน ขับอัดๆกันไป คากันอยู่กลางแยกไฟแดง ทีนี้พอสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง รถที่จะมาจากด้านตรงข้ามจะมาก็มาไม่ได้เพราะติดพวกรถที่คากันอยู่กลางไฟแดงนี่แหละ ที่ผมเรียกว่า “ยัน” มันเป็นการยันกันไป ยันกันมา สะท้านกันไปหมด จนเรียกว่าเป็นง่อย เป็นอัมพาตกันไปทุกเส้นทางๆ เพราะมีพวกเห็นแก่ตัวคากันที่แยกไฟแดง ตามหลักการของ พรบ.ขนส่งทางบกแล้ว ถึงแม้ว่าสัญญาณไฟจะเป็นไฟเขียว แต่ทางที่จะขับไปนั้นไปต่อไม่ได้หรือมีการติดขัด ก็จำเป็นต้องจอดรถรอจนกว่าจะว่างพอที่รถคันนั้นจะไปได้ ถึงได้ขับข้ามแยกไป ห้ามขับไปคาที่กลางแยก แต่ดูเหมือนว่าทุกคนไม่ได้สอบใบขับขี่มา และไม่มีคำถามนี้ในข้อสอบแบบปรนัยในคอมพิวเตอร์ และในการสอบขับก็ไม่มี ทั้งมือเก่าก็มักง่าย มือใหม่ก็ขับไปไม่สนใจอะไร รถมันก็เลยติดกันกระจาย สัญญาณไฟไม่สอดคล้องกับเวลาที่รถไฟมา เพราะสัญญาณไฟจราจรนั้นทำงานแบบอัตโนมัติ ตำรวจไม่ได้มานั่งควบคุมที่ป้อม รถก็เลยติดกันบานเบอะทั้งเช้าและเย็น บางครั้งติดนานถึงครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
ตัวอย่าง ตลาดนัด หรือ ตลาดรถ ก็ไม่รู้ จอดกันสะเปะสะปะมากๆ
3. ตลาดนัด หรือ ตลาดรถ ? ในตอนเย็น ผมไม่ทราบว่าใครเป็นคนอนุมัติ และใครเป็นคนดูแล เรื่องการตั้งตลาดนัดบนถนนฝั่งตรงข้าม แฟลตสามเสน ริมทางรถไฟ ตลาดนัดน่ะ ไม่ได้ทำให้รถติดหรอกครับ แต่ใครอนุญาตให้รถมาจอดริมถนนหน้าตลาดนัด กินช่องทางจราจรไป 1 ช่องทางเลยทีเดียว มันจอดกันเหมือนว่า นี่เป็น ตลาดรถ เอา รถมือสอง มาจอดขายกันว่างั้น ทั้งๆที่มีอยู่ 2 ช่องทางเดินรถ สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องมาถูกบีบให้เหลือช่องทางเดียว รถก็เลยติดคาแยกกันไป ยิ่งต้องมารอพวกรถที่จะถอยออกจากที่จอดรถริมถนนหน้าตลาดนัดแล้วด้วย ยิ่งช้ากันเข้าไปใหญ่ ที่ผมเห็นก็คือมีชายฉกรรจ์มาทำหน้าที่โบกรถบ้าง แต่จะโบกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ มันมั่วกันไปหมดแล้ว ผู้ใหญ่ในกรุงเทพคนไหนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ผมว่าน่าจะลงมาดูแลหน่อยนะ ตลาดนัดน่ะ ดี ผมสนับสนุนให้เปิดกันเยอะๆ มันเป็นการกระจายรายได้ เป็นเรื่องดีกับเศรษฐกิจ แต่ทำไงก็ได้ อย่าให้มากระทบกับการจราจร ยิ่งตรงแยกนี้แล้วด้วย เฉพาะตอนรถไฟมา มันก็ติดจะแย่แล้ว พอรถไฟไป มันก็ไปไม่ได้อีก เพราะติดรถที่จอดริมตลาด ไหนจะคนเดิมริมถนนอีก ผมว่ามาดูคลิปวีดีโอกันเลยดีกว่าครับจะได้เห็นภาพชัดเจน แต่โชคดีที่ตอนถ่ายรถยังไม่ค่อยติดเท่าไหร่
แม้ว่า แยกเศรษฐศิริ เองจะแก้เรื่องปัญหารถไฟมาไม่ได้ แต่ถ้าแก้ปัญหาในเรื่องของสัญญาณไฟจราจร และเรื่องของตลาดนัด ในตอนเย็นได้ การจราจร ณ จุดนี้จะคล่องตัวกว่านี้อีกเยอะครับ ผมยืนยันได้เพราะผมใช้เส้นทางนี้ตลอด ใช้ทุกวัน ใช้มานานแล้ว เข้าใจถึงปัญหา ณ จุดนี้ดีครับ ถ้าไม่มีใครทำอะไร ปัญหามันก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อย คนขับรถเค้าก็หงุดหงิดเวลารถติด พอเห็นไฟเขียวก็รีบเหยียบ แย่งกันไป น้ำใจไม่มี สุดท้ายก็ชนกัน เบียดกัน ทีนี้ก็ยิ่งติดไปใหญ่ เพราะต้องรอประกันมาอีก เลื่อนรถไม่ได้ หนักเข้าไปใหญ่ล่ะทีนี้