แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปัญหาน้ำท่วม ตำรวจนครบาล ประกาศแก้ไข !

จากที่ผมได้โพสบทความที่แล้วไปเมื่อวานนี้ (11 มิ.ย.56) เกี่ยวกับ รถตู้ กลับรถตัดหน้ากระทันหัน ซึ่งในบทความนั้นผมก็ได้บอกแล้วว่า เป็นวันที่รถติดมหาศาลอย่างมากมาย เป็นผลมาจากฝนตกหนัก เกิด ปัญหาน้ำท่วม บนผิวถนน จราจร อย่างแท้จริง โดยเวลาที่รถติดแหง็กบนถนนนานกว่าเดิมเป็นสองถึงสามเท่าจากปกติ ติดกันแบบว่านิ่งสนิทกันทั้งถนนในกรุงเทพเลยจะว่างั้นก็ได้ จนในที่สุดก็เป็นเรื่องใหญ่โต จนต้องทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หันมาสนใจ ที่จะดูแลเรื่องนี้แล้วครับ

ปัญหาน้ำท่วม

โดยวันนี้ (12 มิ.ย. 56) ก็ได้มีการประชุม โดยการนำของ ท่าน พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร เป็นผู้นำในการประชุมหารือ มาตรการแก้ไขปัญหา "ฝนตก รถติด" เสียที เพราะเชื่อว่า ท่านก็คงเห็นเหมือนกันว่า "ฝนตก" มันไม่น่าจะทำให้ "รถติด" ได้ จากการประชุมกันอย่างเคร่งเครียด ในที่สุดก็ออกมาจนได้ กับ 4 มาตรการ ที่ออกมาเพื่อให้ตำรวจนครบาล ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา "ฝนตก รถติด" โดยให้เหตุผลว่าช่วงนี้ในกรุงเทพมหานครเป็นช่วงที่มีฝนตกบ่อย และเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบนพื้นถนนทำให้การรถเคลื่อนตัวได้ช้าและเกิดการติดขัดสะสมต่อเนื่อง จึงได้มีการสั่งการให้ทุกสถานีตำรวจ ดำเนินการดังนี้

มาตรการรับมือ ปัญหาน้ำท่วม รถติด

1. เตรียม ตำรวจจราจร ชุดช่วยเหลือน้ำท่วม ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยจราจรชุดนี้ จะเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนที่เกิดปัญหาจากเหตุน้ำท่วม (อันนี้ผมเข้าใจว่าคงเป็นในกรณีที่รถเสีย น้ำเข้าเครื่องแล้วจอดขวางถนน ซึ่งผมว่าถ้าจะช่วยนะ คงเข็นไม่ไหว คงต้องมี รถเครน เข้ามาช่วยด้วยล่ะมั้ง?) รวมทั้งเข้าไปแก้ไขปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นจากเหตุน้ำท่วมบนผิวถนนอย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ (อันนี้ผมเข้าใจว่าคงเป็นในกรณีที่น้ำมันท่วมผิวถนนไป 1 ช่องทาง รถส่วนใหญ่เลยต้องมาวิ่งช่องทางเดียว) อุปกรณ์ประจำชุดนี้ต้องมีความพร้อม ทั้งเครื่องขยายเสียง เครื่องสูบน้ํา ขนาดเล็ก ปั๊มน้ํา และอื่นๆ ตามที่ได้มีบันทึกสั่งการไว้

2. จุดที่เกิด ปัญหาน้ำท่วม ขังบนพื้นผิวถนน ต้องรีบหาทางแก้ไข (ทำยังไง?) โดยให้รีบประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นถนนโดยเร็ว (เร่งระบายน้ำจากผิวถนน ทำยังไงครับ ก็มันระบายตามท่อ แต่มันระบายได้ช้าเพราะท่ออุดตัน ประสานไปก็เท่านั้น ทาง กทม. หน่วยแม่งานใหญ่ยังทำไรไม่ได้เลยครับ) รวมทั้งให้จราจรเตรียมเครื่องสูบน้ำที่ สามารถจัดหามาได้ (อันนี้ดีครับ แต่ติดตรงคำว่า "ที่สามารถจัดหามาได้" แปลว่าให้ไปหากันเอาเองนะครับ สน.ใครก็ สน.มัน) ดำเนินการนำน้ำออกจาพื้นผิวถนนเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร

3.ถ้าเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักจากเหตุน้ำท่วม (ฟังดูแล้วเหมือน flood in thailand จะ return กลับมา ดูซีเรียสมากๆ) ให้ระดมกำลังและอุปกรณ์จากทุกฝ่าย เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างเต็มที่ (เหมือนจะซ้ำซ้อนกับข้อ 1 และ 2 นะครับ)

4. กรณีมีปัญหาการ จราจร ไม่สามารถเข้าสู่จังหวัดนนทบุรีได้ (แค่ตรงถนนที่เข้าจังหวัดนนทบุรีเหรอครับ สรุปว่าที่รถติดกรุงเทพนี่ เพราะรถเข้าจังหวัดนนทบุรีเหรอครับ ไปปทุม ไปสมุทรปราการนี่ไม่ติดเหรอครับ งงครับ) ให้ตำรวจสน.พื้นที่ที่ติดกัน ข้ามเขตเข้าไปช่วยจัดการ จราจร เพื่อเปิดทางให้รถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ให้ล็อคเป็นวงแหวนเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ แบบที่เกิดขึ้นเมื่อคืน (11 มิ.ย. 56) ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ สน.ประชาชื่น, สน.ทุ่งสองห้อง, สน.ดอนเมือง, สน.บางเขน (เน้น 4 สน. ที่ติดกับทางเข้าจังหวัดนนทบุรีไปเต็มๆ) ต้องรีบเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างรวดเร็ว รวมทั้งให้ทำการเร่งรถออกนอกเมืองให้เคลื่อนตัวออกไปได้อย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ ให้ทุกสถานีตำรวจถือปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการจราจรกรณีเกิดเหตุน้ำท่วมขังบนพื้นผิวถนนอย่างเคร่งครัด

จากที่อ่านๆ ดูกับ ประกาศที่ทาง ตำรวจนครบาล ออกมาตรการมา 4 ข้อนี้ ผมก็ยัง งงๆ อยู่ว่า มันจะช่วยให้รถไม่ติดตอนฝนตกได้อย่างไร สงสัยมากๆ ครับ นอกจากนี้ เส้นทางถนนอื่นที่ไม่ใช่เส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าจังหวัดนนทบุรีนี่ไม่ติดเหรอครับ เช่นเส้นทางถนน ที่มุ่งหน้าไป ปทุมธานี หรือ มุ่งหน้าไปจังหวัดสมุทรปราการ นี่รถไม่ติดตอนฝนตกเหรอครับ ก็ลองดูครับ ว่าในวันพรุ่งนี้ ฝนตกตอนเย็น จะยังมีอาการ "ล็อค" เกิดขึ้นในกรุงเทพอีกหรือไม่ รอดูกันครับ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แท็กซี่ สุดซวยคานเหล็กรถไฟฟ้าสายสีม่วงหล่นทับเฉย

กำลังจะเขียนอยู่พอดี เกี่ยวกับอุบัติเหตุ หรือ “ความซวย” ที่พวกเราคนใช้รถต้องได้รับ จากพวกที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า ในทุกๆ สาย ก็ดันเกิดเหตุขึ้นมาซะก่อน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่คานเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง รถไฟฟ้า สายสีม่วง บริเวณใกล้แยกเตาปูน หล่นลงมาทับรถที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างล่าง ทำให้มีรถได้รับความเสียหายถึง 4 คัน แท็กซี่ 2 คัน รถยนต์ส่วนบุคคลอีก 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 6 มิ.ย. 56 หรือเมื่อตอนสายของวันนี้นี่เอง ซึ่งก็กลายเป็นข่าวใหญ่โตกันไปของวันนี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ที่เห็นเป็นข่าวใหญ่ก็มีอยู่ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ มีการทำคานเหล็กหล่นเข้าไปในบ้านคนที่อยู่ริม ถนนกรุงเทพ-นนท์ และอีกครั้งเมื่อ 26 เมษาฯ ที่ผ่านมาที่ทำกำแพงปูนหล่นลงมาทับแท็กซี่ ก็ตรงแยกเตาปูนนี่อีกแหละครับ มันเป็นเรื่องที่น่ามาวิเคราะห์ และพูดคุยกันนะครับ

แท็กซี่ ซวยสุดๆ ดันเจอคานเหล็กหล่นใส่เฉยเลย

คานเหล็ก รถไฟฟ้า แยกเตาปูน

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าพวกนี้มากๆ บ้านผมไม่ได้โดนเวนคืนที่ดินไปสร้างรถไฟฟ้านะครับ แต่เส้นทางที่ผมใช้ประจำนั้น กำลังก่อสร้างตาม แผนที่รถไฟฟ้า หมดเลย นั่นคือ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงบางพลัด ถึง บางกรวย, ถนนกรุงเทพ-นนท์ ตั้งแต่วงศ์ว่าง ไปจนถึงแยกติวานนท์ และ ถ.ติวานนท์ตั้งแต่แยกติวานนท์ ไปจนถึง แยกแคราย รวมทั้งถนนรัตนาธิเบศร์อีกด้วย มันจะสร้างอะไรกันนักกันหนา แต่สำหรับการพัฒนารถไฟฟ้านั้นผมเห็นด้วย แต่เรื่องสิ่งของที่ร่วงลงมาในขณะก่อสร้างนี่สิครับ ที่ผมรับไม่ได้ ผมเชื่อว่าทุกท่านที่ใช้รถอยู่บนถนน ก็คงจะรับไม่ได้เช่นกัน ถ้ารถสวยๆ ของคุณต้องโดยเศษปูนหล่นลงมากระทบสีรถคุณ ถ้าคุณมาเร็วมากหน่อย มันอาจเจาะเข้าในเนื้อสีของคุณได้ลึกทีเดียว

ผมจะขอเล่าสิ่งที่ผมเจอมานะครับ ตั้งแต่ตอนที่พวกเค้าเริ่มสร้างกันใหม่ๆ รถผมโดนเข้าเต็มๆครับ March ป้ายแดง เศษปูนลงมากระทบเต็มๆ เจาะเข้าเป็นแผลเลย ผมจอดรถเดินลงไปจะเอาเรื่อง แต่ตอนนั้นวิศวกรไม่อยู่ ไม่รู้มันหายหัวไปไหน มีแต่หัวหน้าช่าง ซึ่งก็ช่วยอะไรไม่ได้ ผมก็เลยเรียกประกันมา แล้วก็ให้ประกันเคลม รวมทั้งจัดการแทนผมด้วย แล้วผมก็เอารถไปซ่อม ต่อมาก็มีพวกน้ำๆ เนี่ยลงมาประจำ โดนตลอด หลบไม่ได้หรอกครับ เพราะมันลงมากลางเลนเลย คุณจะหักหลบน้ำแล้วไปชนกับคันอื่นที่เค้าวิ่งมาก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นน้ำเปล่า ผมก็คงจะไม่หลบ แต่นี่เป็นน้ำปูนนะครับ ผมเคยจอดดูน้ำที่มันลงมาโดนรถผม มีทั้งเศษปูน และเศษสนิม นี่มันอะไรกันวะ ทำไมไม่ทำท่อระบายน้ำ คิดจะทิ้งอะไรก็ทิ้งลงมาโดยไม่สนใจใครเลยหรือไง และล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้ว อันนี้แสบสันสุดๆ ระวังกันนะครับ “สี” ครับ สีน้ำแบบที่ทาปูน ทาบ้านเนี่ยแหละครับ เป็นแบบแห้งช้า กระเด็นเป็นละอองหยดๆลงมา ตอนขับคุณก็ไม่รู้หรอกครับ เพราะคุณจะนึกว่าเป็นน้ำปูน หรือน้ำสกปรกเหมือนทุกที แต่พอขับไปถึงที่หมายแล้วจอดดูเท่านั้นแหละ นี่มันสีนี่หว่า โอ้โห เลวมากๆ ทำไมไม่เอาอะไรรองสีกันมันกระเด็นมาโดนรถที่ผ่านไปมาเลยเหรอ ผมก็รีบเช็ดออกทันที โชคยังดีที่มันเป็นสีแบบแห้งช้า เลยยังเช็ดออกได้ แต่ตอนนั้นมันเย็นมากๆ ผ่านไปหลายวัน ผมเพิ่งมาเห็นว่า เหลืออยู่จุดนึง ตอนนี้แห้งแข็งติดไปแระ เอาเล็บขูดก็ไม่ออก ผมก็เลยปล่อยมันไว้เป็นที่ระลึก กับความทุเรศของการก่อสร้างรถไฟฟ้าในทุกๆเส้นที่มีอยู่ตอนนี้

แท็กซี่ สุดสวย เจอคานเหล็กหล่นใส่ซะงั้น บริษัทก่อสร้างรับผิดชอบแค่ไหน???

คานเหล็ก รถไฟฟ้า แยกเตาปูน

ยังไม่ทันได้มาเขียนลงบทความ เรื่องก็เกิดขึ้นจนได้ น่าเศร้านะครับ ถ้าเราเป็นเจ้าของรถ คงจะโกรธและเสียใจมากทีเดียว แท็กซี่ ก็เช่นกัน ถ้าเป็น รถแท็กซี่ เช่าก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็น แท็กซี่ป้ายแดง นี่สิ แย่เลย เพราะต้องส่งค่าผ่อนรถทุกวัน แต่อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคดีมากที่หล่นลงบนรถในจุดที่ไม่สำคัญเช่น ตรงกลางหัวคนขับ และยังดีที่คานเหล็กไม่แข็งมากเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับโครงเหล็กตัวรถ และโชคดีที่สุด ที่ตรงนั้นไม่มี รถจักรยานยนต์  จอดอยู่ ไม่งั้นพวกขับ รถจักรยานยนต์ คงเจ็บหนักถึงขั้นหามเข้าโรงพยาบาลแน่นอน ที่น่าโกรธที่สุดคือความเสียหาย รถของพวกผู้เสียหาย อยู่ดีๆ ก็ต้องมาพัง ต้องเอาไปซ่อม ไม่ได้ซื้อใหม่นะครับ ซ่อมอย่างเดียว แล้วซ่อมช่วงโครงหลังคาของรถเนี่ย เป็นการเคาะอย่างเดียวซึ่งแย่มากครับ ยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิมหรอกครับ ผมอยากรู้มาก ว่าทางบริษัทที่รับผิดชอบในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูนเนี่ย จะชดใช้ค่าเสียหายอย่างไรบ้าง ใช้แค่ค่าเสียหายต่อรถยนต์เท่านั้นหรือ ไม่มีค่าปลอบขวัญคนที่ได้รับความเสียหาย ค่าเสียเวลาที่จะไม่มีรถไปทำงาน พวกเค้าต้องได้รับด้วยมั้ย ทั้งๆที่มันสมควรอยู่แล้ว แต่สุดท้ายผมว่าคงได้แค่ค่าเสียหายรถยนต์ที่เอาไปซ่อมกับขวัญถุงปลอบใจอีก 4-5 พันบาทแหละครับ จริงๆแล้วน่าจะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้มากกว่านี้ แต่ถ้าเจรจายอมความกันไป บริษัทพวกนี้ก็จ่ายเงินน้อยหน่อย ป่านนี้คงมีการส่งคนมาติดต่อเจรจาค่าเสียหาย เพื่อไม่ให้ต้องเป็นเรื่องการฟ้องร้องกันไปเรียบร้อยแล้วล่ะครับ ก็อย่างว่า นี่แหละ Thailand Only!

คานเหล็ก รถไฟฟ้า แยกเตาปูน

น่าสังเกตตรงที่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของความประมาทเลินเล่อ ของบริษัทที่ดูแลการก่อสร้างรถไฟฟ้าพวกนี้ แต่ก่อนหน้านี้มีเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งใหญ่ๆ และหลายร้อยครั้งที่เป็นยิบย่อยแบบที่ผมเจอมา ที่น่าสังเกตคือ “กลับไม่เป็นข่าว” เพราะอะไร เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญพอจะเป็นข่าวงั้นเหรอครับ อันนี้ผมว่าไม่ใช่ หรือพอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถ้าปิดข่าวได้ ก็ปิด ด้วยการที่ทางบริษัทที่ดูแลการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆนี้ ก็รีบส่งตัวแทนเข้าไปดูแล เจรจาค่าเสียหาย เอาให้ผู้เสียหายพึงพอใจ แล้วก็ปิดข่าว ทำให้มันจบๆ ไป ซึ่งอันที่จริงแล้ว ผมบอกเลยนะครับว่า พวกผู้เสียหายพวกนี้ ค่อนข้างที่จะเสียรู้ให้กับตัวแทนของบริษัทพวกนี้ครับ พวกบริษัทพวกนี้มันหัวหมอครับ เวลาเจรจา มันก็จะเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้เต็มที่ และมีเงินปลอบขวัญให้อีกนิดหน่อย แล้วก็จบๆไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เสียหาย มีสิทธิ์ที่จะได้รับค่าเสียหายมากกว่านั้นเยอะ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้าง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หากคุณทำการฟ้องร้อง คุณจะได้มากกว่าแค่ค่าเสียหายของรถยนต์ที่พังไป แต่จะได้ค่าเสียเวลา ค่าเดินทางโดยที่ไม่มีรถ ค่าปลอบขวัญ และหากบาดเจ็บยังเรียกค่าเสียหายได้อีกด้วย พูดง่ายๆว่าได้มากกว่าที่พวกตัวแทนบริษัทนี้มาเสนออีกเยอะ แต่ที่พวกผู้เสียหายพวกนี้ แม้ว่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แก่ใจ เกี่ยวกับสิทธิ์และผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ แต่ก็เลือกที่จะรับเงินสดจากพวกตัวแทนบริษัทดีกว่า เพราะรู้อยู่ว่าการฟ้องร้องนั้น ต้องใช้เวลายาวนานมาก ไม่คุ้มกับการที่ต้องเสียเวลาจ้างทนาย เดินทางไปศาลบ่อยๆ เป็นปีกว่าจะได้รับค่าเสียหาย แต่ถ้าเป็นผม รถเรามีประกันอยู่แล้วก็ให้ประกันซ่อม เรื่องฟ้องร้องก็จัดไป ซึ่งส่วนใหญ่ประกันจะเป็นฝ่ายช่วยฟ้องร้องอีกต่างหากด้วย เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเรานะครับ อย่าไปยอมพวกมัน

พวกบริษัทที่มารับก่อสร้างพวกนี้นั้น เป็นบริษัทที่เรียกได้ว่า ยักษ์ใหญ่ ในวงการก่อสร้างเลยทีเดียวครับ พวกนี้เค้ามีเงินอยู่แล้วครับ เอะอะอะไรก็เอาเงินมาชดใช้ให้ แต่มันไม่เพียงพอหรอกครับ อันที่จริงแล้ว ถ้าเป็นในต่างประเทศ ถึงแม้ผู้เสียหายจะไม่เอาเรื่องและยอมความกันไป แต่ทางรัฐหรืออัยการเขตจะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองนะครับ เพราะถือเป็นการสร้างความเสียหายให้กับประชาชน ต้องชดใช้ให้รัฐนะครับ แต่อย่างว่า ย้ำอีกครั้งว่า เพราะนี่คือ Thailand Only! ก็หยวนๆ กันไปละกันนะ